นโยบายความเป็นส่วนตัวระดับสากล

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลที่มีผลใช้บังคับ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (สหภาพยุโรป) 2016/679 (General Data Protection Regulation (EU) 2016/679) (“จีดีพีอาร์” (GDPR)) กฎข้อบังคับการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปแห่งสหราชอาณาจักร (United Kingdom General Data Protection Regulation) (“จีดีพีอาร์แห่งสหราชอาณาจักร” (UK GDPR)) รัฐบัญญัติความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2561 (California Consumer Privacy Act of 2018) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐบัญญัติสิทธิความเป็นส่วนตัวแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2563 (California Privacy Rights Act of 2020) (“ซีซีพีเอ” (CCPA)) และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (China Personal Information Protection Law) (“พีไอพีแอล” (PIPL)) บริษัท มาโครมิลล์ อิงก์ (MACROMILL, INC.) และบริษัทในเครือและกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “บริษัทฯ”) ได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวระดับสากลดังต่อไปนี้ (“นโยบายฉบับนี้”) เพื่อคุ้มครองการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยี่ยมชมและผู้ใช้งาน (“ผู้ใช้งาน”) ของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน (“แอป”) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯ และของบริการอื่น ๆ ที่บริษัทฯ ให้บริการ (“บริการนี้”) ผู้ติดต่อของบริษัทคู่ค้าซึ่งบริษัทฯ ทำธุรกรรมด้วย (“บริษัทคู่ค้า”) ตลอดจนผู้ตอบแบบสำรวจในการวิจัยทางการตลาด (“ผู้ตอบแบบสำรวจ” โดยเรียกรวมกับผู้ใช้งานและบริษัทคู่ค้าว่า “ลูกค้า”)

บริษัทในเครือและกลุ่มบริษัท

• ประเทศญี่ปุ่น (บริษัทในเครือ) ได้แก่ บริษัท มาโครมิลล์ เซาท์ อีสต์ เอเชีย อิงก์
• ประเทศไทย (กลุ่มบริษัท) ได้แก่ บริษัท มาโครมิลล์ เซาท์ อีสต์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด
• ประเทศอินโดนีเซีย (กลุ่มบริษัท) ได้แก่ บริษัท มาโครมิลล์ เซาท์ อีสต์ เอเชีย อินโดนีเซีย จำกัด
• ประเทศเวียดนาม (กลุ่มบริษัท) ได้แก่ บริษัท มาโครมิลล์ เซาท์ อีสต์ เอเชีย เวียดนาม จำกัด

นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าซึ่งอาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area (EEA)) สหราชอาณาจักร รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน สำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ให้บังคับใช้และอ้างอิง “นโยบายความเป็นส่วนตัว” แยกต่างหาก
นอกจากนี้ เมื่อมีการกำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัว เงื่อนไขการใช้บริการ กฎสำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎอื่น ๆ ไว้ในบริการที่บริษัทฯ ให้บริการแก่ลูกค้า นโยบายความเป็นส่วนตัว เงื่อนไขการใช้บริการ กฎสำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎอื่น ๆ ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเช่นเดียวกับนโยบายฉบับนี้

1. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวมรวบ

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

• ข้อมูลพื้นฐานของลูกค้า (ชื่อ เพศ วันเกิด อายุ อาชีพ ที่อยู่ (บริเวณที่พักอาศัย) หมายเลขประจำตัวประชาชน ประวัติการศึกษา โครงสร้างครอบครัว สถานภาพการสมรส งานอดิเรกและความชอบ รายได้ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ตัวระบุที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าใด ๆ (เช่น ไอดี (ID) ลูกค้า ไอดีผู้ใช้งาน หรือหมายเลขสมาชิก) สัญชาติหรือประเทศที่พักอาศัย เป็นต้น)
• ข้อมูลชีวมิติ (ภาพใบหน้า เสียง เป็นต้น)
• ข้อมูลสังกัด (ประเภทอุตสาหกรรม ชื่อบริษัท ชื่อองค์กร ที่อยู่ ชื่อแผนก ตำแหน่ง เป็นต้น)
• ข้อมูลการตอบแบบสำรวจและแบบสอบถามที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ ฯลฯ ของลูกค้าและผู้ฝากทำการสำรวจของบริษัทฯ (รวมถึงลูกค้าของผู้ฝากทำการสำรวจ โดยต่อจากนี้จะเรียกว่า “ผู้ฝากทำการสำรวจ” (Survey Consignors))
• ข้อมูลสถานะทางการแพทย์และสุขภาพ
• ข้อมูลโซเชียลมีเดีย (ข้อมูลบัญชี ประวัติส่วนตัวและอื่น ๆ สำหรับเอกซ์ (X) เฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) กูเกิล (Google) เป็นต้น)
• ข้อมูลที่ได้รับจากเทอร์มินัล (Terminal) ของลูกค้า (ประเภทของเทอร์มินัล ระบบปฏิบัติการ (OS) ตัวระบุเทอร์มินัล ที่อยู่ไอพี (IP) ประเภทเบราว์เซอร์และข้อมูลเบราว์เซอร์อื่น ๆ ข้อมูลผู้อ้างอิง ไอดีคุกกี้ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเรียกดูและประวัติการสั่งซื้อซึ่งได้รับมาโดยการใช้คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับคุกกี้ ตัวระบุโฆษณา เช่น ไอดีเอฟเอ (IDFA) ไอดีโฆษณากูเกิล เพลย์ (Google Play) และข้อมูลทางเทคนิคอื่น ๆ เป็นต้น)
  (*รายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การใช้คุกกี้และอื่น ๆ มีอธิบายไว้ใน “2. คุกกี้” ภายใต้ “การส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้” ในนโยบายความเป็นส่วนตัว)

2. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูล

(1) วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจ และฐานทางกฎหมายสำหรับประมวลผลข้อมูล

บริษัทฯ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นและการค้นหาข้อเท็จจริงของผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และอื่น ๆ ของผู้ฝากทำการสำรวจ (“การสำรวจ”) โดยใช้ฐานความยินยอมของผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจ การปฏิบัติตามสัญญา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และยอมรับการมอบหมายการให้บริการในการส่งข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงผลการสำรวจที่ได้รับจากผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจผ่านทางการสำรวจให้แก่ผู้ฝากทำการสำรวจและกลุ่มและองค์กรอื่น ๆ ตลอดจนใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจภายในขอบเขตของบริการที่ได้รับมอบหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ รวมถึงข้อมูลการตอบกลับ กิจกรรมการวิเคราะห์ แบบสำรวจ และบริการ ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริการนี้ ปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้ พัฒนาบริการใหม่ การสำรวจทางการตลาด และการตลาดและการวิจัย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยที่อาจเกิดขึ้น กิจกรรมการวิเคราะห์หมายความว่า งานวิเคราะห์ซึ่งรวมถึงงานที่วิเคราะห์โดยการประมวลผลอัตโนมัติ เช่น การจัดทำโปรไฟล์ผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจ บริษัทฯ อาจรวมข้อมูลซึ่งเก็บรวบรวมมาโดยตรงหรือโดยอ้อม และวิเคราะห์ ประเมิน หรือคาดการณ์งานอดิเรก ความชอบ ความสนใจ การตระหนักรู้ ความมั่นใจ กิจกรรม ตำแหน่งที่ตั้ง พฤติกรรม และประเด็นอื่น ๆ ของผู้ใช้งานและผู้ตอบแบบสำรวจ

(2) วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทคู่ค้า และฐานทางกฎหมายสำหรับประมวลผลข้อมูล

บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทคู่ค้าภายในขอบเขตของการติดต่อสื่อสารกับบริษัทคู่ค้า การปฏิบัติตามสัญญาที่ทำกับบริษัทคู่ค้า และการดำเนินการด้านการตลาด การวิจัย และกิจกรรมทางธุรกิจอื่น ๆ ของบริษัทฯ โดยใช้ฐานความยินยอมของบริษัทคู่ค้า การปฏิบัติตามสัญญา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทคู่ค้า (รวมถึงกิจกรรมการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาและปรับปรุงบริการทางด้านระบบของบริษัทฯ การปรับปรุงบริการของบริษัทฯ การจัดกิจกรรมทางการตลาดและการให้คำปรึกษา เช่น การสำรวจตลาด การให้บริการด้านการสื่อสารทางการตลาด ตลอดจนการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ากับผู้รับข้อมูลตามที่ระบุไว้ด้านล่างในขอบเขตที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 และภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายและกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอนุญาต

(1) บริษัทสาขา (กลุ่มบริษัท) และบริษัทในเครือของบริษัทฯ

บริษัทฯ ร่วมกับบริษัทสาขา (กลุ่มบริษัท) และบริษัทในเครือจะร่วมกันใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ MACROMILL, INC.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน

(2) ผู้ให้บริการ

ตัวอย่างเช่น อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (รวมถึงผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลและระบบคลาวด์) ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ให้บริการในการเผยแพร่โฆษณา ที่ปรึกษากฎหมาย และผู้ให้บริการอื่น ๆ

(3) ผู้จัดจำหน่ายตามสัญญาของบริษัทฯ

ในการให้บริการวิจัยทางการตลาดให้แก่ผู้ฝากทำการสำรวจ บริษัทฯ จะมอบหมายส่วนหนึ่งของบริการดังกล่าว และอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้จัดจำหน่ายตามสัญญาภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะบริหารจัดการและควบคุมดูแลผู้รับเหมาอย่างเหมาะสม รวมถึงเข้าทำสัญญากับผู้รับเหมาที่ให้บริการดังกล่าวเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ฝากทำการสำรวจและลูกค้า

(4) ผู้ฝากทำการสำรวจ

(5) อื่น ๆ

อาจมีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการโมดูลการเก็บรวบรวมข้อมูล พันธมิตรที่มีอาจมีการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) หน่วยงานกำกับดูแล และบุคคลที่สามอื่น ๆ

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากลูกค้าเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยอ้อมจาก (1) องค์กร บรรษัท หรือนิติบุคคลที่ลูกค้าสังกัดอยู่หรือมีความเกี่ยวข้องด้วย (2) ผู้ประกอบการโซเซียลมีเดีย เช่น เอกซ์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม กูเกิล เป็นต้น (3) ผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่นอกเหนือจากบริษัทฯ และ (4) บริษัทรับจ้างภายนอกตามที่ระบุไว้ในข้อ 3 (3) ข้างต้น

5. การบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

เราดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จำกัดวิธีการนำข้อมูลส่วนบุคคลออกนอกสำนักงาน และป้องกันการเข้าถึงจากภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต เรายังดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล สูญหาย หรือเสียหาย และดำเนินมาตรการอันจำเป็นและเหมาะสมอื่น ๆ เพื่อบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม เราอาจไม่สามารถรับประกันความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกขโมย สูญหาย หรือรั่วไหลเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ในกรณีดังกล่าว เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจำกัดความเสียหายให้น้อยที่สุดและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ

บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังสถานที่ตั้งซึ่งอยู่นอกพื้นที่ที่ลูกค้าพักอาศัย (รวมถึง เช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม) หรือในกรณีของลูกค้าที่อาศัยอยู่ในสหภาพยุโรป อาจมีการส่งหรือโอนไปยังนอกสหภาพยุโรป (“การส่งหรือโอนระหว่างประเทศ”) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 ประเทศเหล่านี้จะรวมถึงประเทศที่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าที่กฎหมายและกฎข้อบังคับมีผลใช้บังคับในประเทศที่ลูกค้าพักอาศัยอยู่ด้วย
เมื่อบริษัทฯ ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยการส่งหรือโอนระหว่างประเทศไปยังประเทศเหล่านี้ บริษัทฯ จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นตามที่กฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับกำหนด เป็นต้น หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเราตามข้อมูลการติดต่อซึ่งระบุไว้ในข้อ “14. การสอบถาม” ด้านล่าง

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้นานเท่าที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์การใช้ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ ในการกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เราจะพิจารณาว่า (1) มีความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับลูกค้าหรือไม่ (2) บริษัทฯ มีภาระผูกพันทางกฎหมายในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ และ (3) มีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญากับลูกค้าหรือไม่

8. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเด็ก

บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทฯ โดยได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองแล้วเท่านั้น
หากบริษัทฯ พบว่า บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีโดยปราศจากความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง บริษัทฯ จะรีบดำเนินการอันเหมาะสมโดยทันที
บิดามารดาและผู้ปกครองจะต้องตกลงว่า ในกรณีที่มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ ในนามของลูกค้าซึ่งมีอายุต่ำกว่า 16 ปี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาโดยตรงจากลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีซึ่งเกี่ยวข้องกับการสำรวจและบริการนี้จะได้รับการจัดการตามนโยบายฉบับนี้ด้วยเช่นกัน

9. สิทธิในการเปิดเผย แก้ไข เพิ่มเติม ลบ ฯลฯ ข้อมูลส่วนบุคคล

ลูกค้าอาจมีสิทธิดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับ

• (1) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (รวมถึงสำเนา)
• (2) สิทธิในการแก้ไขให้ถูกต้อง
• (3) สิทธิในการลบข้อมูล (สิทธิที่จะถูกลืม) เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขบางประการ
• (4) สิทธิในการระงับ (หยุดการประมวลผล) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลในกรณีที่เป็นไปตามเงื่อนไขบางประการ
• (5) สิทธิในการรับข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่มีโครงสร้างและสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องมือในกรณีที่เป็นไปตามเงื่อนไขบางประการ (สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล)

อาจมีการจำกัดสิทธิเหล่านี้ไว้เป็นกรณีพิเศษ หากการปฏิบัติตามคำขอของลูกค้าจะเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัทฯ หรือบุคคลที่สาม หรือหากร้องขอให้เราลบข้อมูลที่เราจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ตามกฎหมายและกฎข้อบังคับ ทั้งนี้ ข้อยกเว้นสำหรับสิทธิเหล่านี้จะระบุไว้ในกฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับ
หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิเหล่านี้ กรุณาติดต่อเราผ่านทางข้อมูลการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ “14. การสอบถาม” ด้านล่าง

10. สิทธิในการคัดค้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

ลูกค้าอาจมีสิทธิในการคัดค้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการจัดการโดยใช้ฐานผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายภายใต้กฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับเมื่อใดก็ได้ การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในบริบทนี้รวมถึงการทำโปรไฟล์ลิ่ง (profiling) (ซึ่งหมายถึงการวิเคราะห์และการคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าโดยอ้างอิงจากข้อมูลของลูกค้า และต่อจากนี้ไปให้ใช้ในความหมายเดียวกันนี้)
ลูกค้าอาจมีสิทธิโดยเด็ดขาดตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับในการปฏิเสธการทำการตลาดแบบตรงหรือปฏิเสธการทำโปรไฟล์ลิ่งที่จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวหากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าถูกจัดการเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดแบบตรง
หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิเหล่านี้ กรุณาติดต่อเราผ่านทางข้อมูลการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ “14. การสอบถาม” ด้านล่าง

11. สิทธิในการถอนความยินยอม

ลูกค้ามีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของตนเมื่อบริษัทจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยอาศัยฐานความยินยอมจากลูกค้า ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการดำเนินการใด ๆ ซึ่งได้กระทำตามความยินยอมที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้า
หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิเหล่านี้ กรุณาติดต่อเราผ่านทางข้อมูลการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ “14. การสอบถาม” ด้านล่าง

12. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ร้องขอ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ขอให้ลูกค้ากรอกเพื่อจัดทำการสำรวจนั้นจะมีระบุไว้ในแบบฟอร์มที่ให้ลูกค้ากรอกข้อมูล ทั้งนี้ ลูกค้าอาจไม่จำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว แต่ถ้าหากไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถมอบรางวัลหรือบริการอื่น ๆ สำหรับการสำรวจให้แก่ลูกค้าได้

13. สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล

ลูกค้าอาจมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับได้ โดยหน่วยงานกำกับดูแลที่สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้อาจรวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปหรือสหราชอาณาจักรซึ่งลูกค้าพักอาศัยหรือทำงานอยู่หรือสถานที่ที่มีการยื่นเรื่องร้องเรียนจีดีพีอาร์หรือจีดีพีอาร์แห่งสหราชอาณาจักร

14. การสอบถาม

กรุณาติดต่อด้านล่าง เพื่อสอบถามบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท มาโครมิลล์ อิงก์ ผู้จัดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (MACROMILL, INC., Personal Data Protection Manager)

แบบฟอร์มการติดต่อ

15. การปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้

บริษัทฯ อาจปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ หากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายฉบับนี้ จะประกาศลงบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ กรุณาตรวจสอบเนื้อหาที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างละเอียดถี่ถ้วน

---

จบ

จัดทำเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แก้ไขล่าสุดเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2568